การลงทุนในประกันสะสมทรัพย์เป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว พร้อมทั้งได้รับผลตอบแทนที่แน่นอนและความคุ้มครองชีวิตไปพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม การเลือกประกันสะสมทรัพย์ที่เหมาะสมและคำนวณผลตอบแทนให้คุ้มค่านั้นอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อนสำหรับหลายคน บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจวิธีคำนวณผลตอบแทนจากประกันสะสมทรัพย์อย่างละเอียด โดยใช้หลักการคำนวณและผลประโยชน์จากตารางตัวอย่างที่ให้มา เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมั่นใจและชาญฉลาด

ประกันสะสมทรัพย์คืออะไร?

ก่อนที่เราจะเข้าสู่การคำนวณผลตอบแทน มาทำความรู้จักกับประกันสะสมทรัพย์กันก่อน ประกันสะสมทรัพย์เป็นผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้เอาประกันได้รับทั้งความคุ้มครองชีวิตและผลตอบแทนจากการออมทรัพย์ในเวลาเดียวกัน โดยทั่วไปแล้ว คุณจะต้องชำระเบี้ยประกันเป็นระยะเวลาที่กำหนด (เช่น 5 ปี, 9 ปี, 12 ปี) และเมื่อครบกำหนดสัญญา คุณจะได้รับเงินคืนตามที่ระบุในกรมธรรม์ ซึ่งอาจรวมถึงเงินต้นและผลตอบแทนเพิ่มเติม

ประกันสะสมทรัพย์เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินในระยะยาว ต้องการความมั่นคง และไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากการลงทุนสูงเหมือนการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวม นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์ด้านภาษีที่สามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร

ตัวอย่างผลประโยชน์จากประกันสะสมทรัพย์

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น เราจะใช้ตารางตัวอย่างที่คุณให้มาเป็นหลักในการอธิบายผลประโยชน์และวิธีคำนวณผลตอบแทนจากประกันสะสมทรัพย์ ตารางนี้แสดงผลประโยชน์ของประกันสะสมทรัพย์ที่มีระยะเวลาการชำระเบี้ย 5 ปี และให้ความคุ้มครองชีวิตในระยะเวลาต่างๆ ดังนี้

ตารางผลประโยชน์ประกันสะสมทรัพย์ (ระยะเวลาชำระเบี้ย 5 ปี)

ระยะเวลาผลตอบแทนรวมเมื่อครบกำหนด
15/9115% ของจำนวนเงินเอาประกัน
18/12118% ของจำนวนเงินเอาประกัน
21/15121% ของจำนวนเงินเอาประกัน

หมายเหตุ:

  • เลขก่อนเครื่องหมาย “/” หมายถึงระยะเวลาคุ้มครอง (เช่น 15 ปี, 18 ปี, 21 ปี)
  • เลขหลังเครื่องหมาย “/” หมายถึงระยะเวลาที่ต้องชำระเบี้ย (ในที่นี้คือ 5 ปี)
  • ผลตอบแทน 100% หมายถึงได้รับเงินคืนเท่ากับจำนวนเงินเอาประกันเริ่มต้น และส่วนที่เกิน 100% คือผลตอบแทนเพิ่มเติม

ตัวอย่างผลประโยชน์เพิ่มเติม

นอกเหนือจากผลตอบแทนเมื่อครบกำหนดสัญญาแล้ว ตารางยังระบุถึงผลประโยชน์อื่นๆ ดังนี้:

  1. เงินปันผลระหว่างสัญญา (ถ้ามี): ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัทประกัน
  2. ความคุ้มครองชีวิต:
  • 3.1 กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย: ได้รับ 100% ของจำนวนเงินเอาประกัน
  • 3.2 กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเพิ่มเติม:
    • ปีที่ 1-2: ได้รับ 100% ของจำนวนเงินเอาประกัน
    • ปีที่ 3-5: ได้รับ 60% ของจำนวนเงินเอาประกัน
    • ปีที่ 6 เป็นต้นไป: ได้รับ 25% ของจำนวนเงินเอาประกัน
  1. สิทธิประโยชน์ด้านภาษี: สามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร

วิธีคำนวณผลตอบแทนจากประกันสะสมทรัพย์

เพื่อให้เข้าใจวิธีคำนวณผลตอบแทนจากประกันสะสมทรัพย์ให้คุ้มค่า มาดูขั้นตอนการคำนวณกันแบบละเอียด โดยใช้ตัวอย่างจากตารางด้านบน

ขั้นตอนที่ 1: กำหนดจำนวนเงินเอาประกันและเบี้ยประกัน

สมมติว่าคุณเลือกประกันสะสมทรัพย์แบบ 15/9 (ระยะเวลาคุ้มครอง 15 ปี ชำระเบี้ย 5 ปี) โดยมีจำนวนเงินเอาประกันเริ่มต้นที่ 100,000 บาท และคุณต้องชำระเบี้ยประกันปีละ 20,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี

  • เบี้ยประกันทั้งหมดที่ชำระ = 20,000 บาท x 5 ปี = 100,000 บาท

ขั้นตอนที่ 2: คำนวณผลตอบแทนเมื่อครบกำหนด

จากตาราง เมื่อครบกำหนด 15 ปี คุณจะได้รับผลตอบแทน 115% ของจำนวนเงินเอาประกัน

  • จำนวนเงินที่ได้รับเมื่อครบกำหนด = 100,000 บาท x 115% = 115,000 บาท

ขั้นตอนที่ 3: คำนวณกำไรสุทธิ

กำไรสุทธิคือจำนวนเงินที่ได้รับเมื่อครบกำหนด ลบด้วยเบี้ยประกันทั้งหมดที่ชำระ

  • กำไรสุทธิ = 115,000 บาท – 100,000 บาท = 15,000 บาท

ขั้นตอนที่ 4: คำนวณอัตราผลตอบแทนต่อปี (Internal Rate of Return – IRR)

การคำนวณอัตราผลตอบแทนต่อปี (IRR) เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณเปรียบเทียบผลตอบแทนจากประกันสะสมทรัพย์กับการลงทุนประเภทอื่นๆ ได้ โดยทั่วไป IRR จะคำนวณโดยใช้สูตรทางการเงิน ซึ่งอาจต้องใช้เครื่องมืออย่าง Excel หรือเครื่องคิดเลขทางการเงิน แต่เพื่อให้เข้าใจง่าย เราจะประมาณการคร่าวๆ ดังนี้:

  • คุณลงทุน 100,000 บาท (ชำระ 20,000 บาทต่อปี เป็นเวลา 5 ปี)
  • หลังจาก 15 ปี คุณได้รับ 115,000 บาท
  • กำไร 15,000 บาท ในระยะเวลา 15 ปี

หากคำนวณ IRR แบบคร่าวๆ อัตราผลตอบแทนต่อปีจะอยู่ที่ประมาณ 1-2% ต่อปี ซึ่งถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้นหรือกองทุนรวม แต่ข้อดีของประกันสะสมทรัพย์คือความมั่นคงและความแน่นอนของผลตอบแทน

เปรียบเทียบผลตอบแทนในแต่ละระยะเวลา

จากตาราง:

  • แบบ 15/9: ได้รับ 115% (กำไร 15% ใน 15 ปี)
  • แบบ 18/12: ได้รับ 118% (กำไร 18% ใน 18 ปี)
  • แบบ 21/15: ได้รับ 121% (กำไร 21% ใน 21 ปี)

หากคำนวณ IRR แบบคร่าวๆ จะพบว่า:

  • แบบ 15/9: IRR ประมาณ 1-2% ต่อปี
  • แบบ 18/12: IRR ประมาณ 1.2-2.2% ต่อปี
  • แบบ 21/15: IRR ประมาณ 1.3-2.3% ต่อปี

จากตัวเลขนี้ แบบ 21/15 ให้ผลตอบแทนรวมสูงสุด (121%) แต่ใช้ระยะเวลานานกว่า หากคุณต้องการเงินคืนเร็ว แบบ 15/9 อาจเหมาะสมกว่า

วิธีเลือกประกันสะสมทรัพย์ให้คุ้มค่า

  1. เปรียบเทียบผลตอบแทนกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก: หากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงกว่าผลตอบแทนจากประกันสะสมทรัพย์ คุณอาจพิจารณาการฝากเงินแทน แต่ต้องคำนึงถึงความคุ้มครองชีวิตที่ประกันให้ด้วย
  2. พิจารณาความต้องการเงินในอนาคต: หากคุณต้องการเงินคืนในระยะสั้น ให้เลือกแบบที่มีระยะเวลาคุ้มครองสั้น เช่น 15/9
  3. คำนึงถึงสิทธิประโยชน์ด้านภาษี: การลดหย่อนภาษีสามารถเพิ่มความคุ้มค่าให้กับประกันสะสมทรัพย์
  4. ตรวจสอบเงื่อนไขเงินปันผล: หากกรมธรรม์มีเงินปันผล อาจช่วยเพิ่มผลตอบแทนรวมได้
  5. เลือกบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือ: บริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงินจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าเงินของคุณจะได้รับการจ่ายคืนตามสัญญา

ข้อควรระวังในการลงทุนกับประกันสะสมทรัพย์

  • ผลตอบแทนต่ำกว่าการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง: หากคุณต้องการผลตอบแทนสูง อาจต้องมองหาการลงทุนอื่น เช่น หุ้นหรือกองทุนรวม
  • สภาพคล่องต่ำ: เงินที่ชำระเป็นเบี้ยประกันจะถอนออกมาใช้ไม่ได้จนกว่าจะครบกำหนดสัญญา
  • ผลกระทบจากเงินเฟ้อ: ผลตอบแทนที่ได้รับอาจมีมูลค่าลดลงในอนาคตเนื่องจากเงินเฟ้อ

สรุป

การคำนวณผลตอบแทนจากประกันสะสมทรัพย์เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าการลงทุนนี้คุ้มค่าหรือไม่ จากตัวอย่างในตาราง ผลตอบแทนของประกันสะสมทรัพย์แบบ 15/9, 18/12 และ 21/15 อยู่ที่ 115%, 118%, และ 121% ตามลำดับ ซึ่งให้ผลตอบแทนที่แน่นอนและมั่นคง แม้ว่าอัตราผลตอบแทนต่อปีอาจไม่สูงมากเมื่อเทียบกับการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่ประกันสะสมทรัพย์ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงทางการเงิน ความคุ้มครองชีวิต และสิทธิประโยชน์ด้านภาษี

หากคุณกำลังมองหาการลงทุนที่ปลอดภัยและให้ผลตอบแทนที่แน่นอน การเลือกประกันสะสมทรัพย์ที่เหมาะสมกับเป้าหมายการเงินของคุณ และคำนวณผลตอบแทนอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนนี้ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีคำนวณผลตอบแทนจากประกันสะสมทรัพย์ และตัดสินใจลงทุนได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

หากลูกค้าท่านใดต้องการจะทำประกันสะสมทรัพย์กับกรุงเทพประกันชีวิต สามารถติดต่อตัวแทนกรุงเทพประกันชีวิตได้ที่ไลน์ @AGBK ได้เลยครับ

ขอบคุณรูปภาพประกอบบทความจาก freepik.com